การบริจาคโลหิตนั้นไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียหรือเกิดอันตรายต่อผู้บริจาค กลับกันยิ่งจะทำให้ผู้บริจาคมีสุขภาพดี และยังเป็นการสร้างกุศลที่ได้มีส่วนได้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
- สุขภาพโดยรวมต้องสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ได้อยู่ในระหว่างการรับประทานยาปฏิชีวนะ
- ก่อนมาบริจาคต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ประมาณ 30 นาที ก่อนบริจาคโลหิต ให้ดื่มน้ำสะอาดประมาณ 3-4 แก้ว ซึ่งจะเท่ากับปริมาณของโลหิตที่ได้บริจาคไป การดื่มน้ำจะส่งผลให้โลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดอาการเป็นลมที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริจาคโลหิต
- ก่อนมาบริจาคให้รับประทานอาหารของมื้อนั้นๆ และควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ หรืออาหารอื่นๆที่มีส่วนประกอบของน้ำมันเยอะๆ เพราะจะส่งผลทำให้พลาสมามีสีขาวขุ่นขึ้นมาได้ และจะไม่สามารถนำโลหิตที่ได้รับบริจาคมาไปรักษาผู้ป่วยได้
- ก่อนบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง ให้งดการสูบบุหรี่ เพื่อที่จะให้ปอดทำการฟอกโลหิตได้ดี
- ให้งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
การปฏิบัติตัวหลังบริจาคโลหิต
- นั่งพักร่างกายอย่างน้อย 15 นาที รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่ได้จัดไว้ให้ และควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติเป็นเวลา 1-2 วัน
- ควรที่จะนั่งพักก่อนจนแน่ใจว่าเป็นปกติแล้ว และหากเกิดอาการวิงเวียนศรีษะหรืออาการเหมือนกำลังจะเป็นลม ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในทันที
- ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันไดเลื่อน และการขึ้นลงลิฟท์ เพราะอาจทำให้เวียนศรีษะหรืออาจจะเป็นลมได้
- หากผ้าปิดแผลมีโลหิตซึมออกมา ให้ใช้นิ้วมือกดลงบนผ้าปิดแผล ต้องกดให้แน่น และให้ยกแขนขึ้นสูงประมาณ 5 นาที หากโลหิตยังไม่หยุดซึมออกมาให้กลับไปยังสถานพยาบาลที่ได้ทำการบริจาคโลหิตเพื่อพบแพทย์
- สำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรกล หรือทำงานที่ต้องมีการปีนขึ้นไปในที่สูง ควรหยุดพักผ่อนเป็นเวลา 1 วัน
- ให้รับประทานยาธาตุเหล็กที่ได้รับมาอย่างน้อยวันละ 1 เม็ด หรือให้รับประทานอาหารธาตุเหล็กสูง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดธาตุเหล็ก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมอื่นๆที่มีการเสียเหงื่อมากๆ และไม่ควรใช้แขนข้างที่ได้บริจาคโลหิตยกของหนักเป็นเวลา 1 วัน
ประโยชน์ของการบริจาคโลหิต
- สุขภาพแข็งแรง ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย แต่จะเป็นการกระตุ้นให้ไขกระดูกทำการผลิตเม็ดโลหิตขึ้นมาใหม่ ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตนั้นดีขึ้น จึงส่งผลทำให้ร่างกายแข็งแรง
- ผิวพรรณดีขึ้น เนื่องจากโลหิตมีการไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล ดูเปล่งปลั่ง
- มีความสุขในการเป็นผู้ให้ เพราะว่าได้บริจาคโลหิตช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง
การบริจาคโลหิตนอกจากจะได้ช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนที่ต้องการโลหิตมาช่วยชีวิตแล้ว ก็ยังทำให้สุขภาพดีขึ้นด้วย ดังนั้นหากคุณคิดว่าร่างกายแข็งแรง มีความพร้อม และมีความต้องการที่จะบริจาค ก็สามารถที่จะติดต่อสถานพยาบาลต่างๆได้เลย