รถเก่าแอร์ไม่เย็น แก้ไขอย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน

ปัญหา รถเก่าแอร์ไม่เย็น ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เมื่อรถใช้ไปนาน ๆ อุปกรณ์ทำความเย็นย่อมเสื่อมสภาพลง ทำให้การทำความเย็นของระบบทั้งหมดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพซึ่งหากพบว่าแอร์เริ่มไม่เย็นก็ควรรีบทำการแก้ไขเพื่อที่ปัญหาจะได้ไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม

รถเก่าแอร์ไม่เย็น แก้ไขได้อย่างไรบ้าง

ปัญหาแอร์ไม่เย็นของรถเก่าที่ใช้มาอย่างยาวนานส่วนใหญ่ที่พบได้บ่อยก็จะมาจากรองแอร์อุดตัน ดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดชุดกรองแอร์เป็นประจำ หากให้ดีก็ควรเปลี่ยนบ้างเพราะเป็นชิ้นส่วนที่มีราคาไม่ได้สูงมากนัก

หากแก้ไขแล้วก็ยังไม่เย็นก็คงต้องเตรียมใจในเรื่องของค่าซ่อมที่ตามมาได้เลย เพราะสาเหตุอาจมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อระบบไฟฟ้าที่จะส่งผลให้ใบพัดลมระบายอากาศที่เป่าลมเข้าไปยังห้องเครื่องไม่ทำงาน หากไม่ซ่อมแซมแก้ไขก็จะมีความเสียหายอื่น ๆ ตามมาอีกมาก

โดยการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แน่นอนว่าจะต้องเสียจ่ายค่าซ่อมที่สูงขึ้น ดังนั้นการใช้งานแอร์รถยนต์อย่าทะนุถนอม หมั่นดูแลตรวจเช็กเป็นประจำก็จะช่วยให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าซ่อมแซมบ่อย ๆ

วิธีดูแลเพื่อป้องกัน รถเก่าแอร์ไม่เย็น

สตาร์ทรถก่อนเปิดแอร์

การที่เปิดแอร์ก่อนสตาร์ทรถซึ่งไฟต้องจ่ายไปหลายจุด หากเป็นรถเก่าที่ใช้งานมานานอาจทำให้สายไฟหรือจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ จนเกิดอาการช็อตขึ้นมาได้ส่งผลทำให้แอร์รถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการสตาร์ตให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มกำลังก่อนแล้วเปิดแอร์ถือเป็นการยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ไม่เร่งแอร์ให้เย็นมากเกินไป

การเปิดแอร์รถยนต์แบบเร่งเต็มกำลังจะเป็นการทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการสะสมฝุ่นละอองภายในช่องแอร์จนเกิดสิ่งสกปรกสะสม และน้ำแข็งไปเกาะตัวอุดตันในช่องแอร์ ส่งผลให้แอร์ไม่เย็น แอร์รั่วได้ ดังนั้นควรเปิดแอร์รถยนต์ที่อุณหภูมิพอเหมาะจะเป็นการยืดอายุการทำงานของแอร์รถยนต์ให้ยาวนานขึ้น

ระบายความร้อนด้วยการเปิดกระจก

เมื่อจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ หากกลับเข้าไปที่ก็มักจะพบกับความร้อนระอุการเร่งแอร์แบบสุดกำลังจึงเป็นสิ่งที่หลายคนมักทำกันจึงเป็นเหตุให้แอร์รถยนต์ทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม วิธีที่ควรทำคือการเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศร้อน เมื่ออุณหภูมิลดลงแล้วค่อยเปิดแอร์

รถเก่าแอร์ไม่เย็น สามารถจะแก้ไข และป้องกันได้ด้วยวิธีที่กล่าวมาซึ่งถือเป็นวิธีการเบื้องต้น อย่างไรก็ตามหากพบว่าแอร์มีอาการผิดปกติเพี้ยงเล็กน้อยก็ควรรีบนำไปตรวจเช็กทำการซ่อมแซมไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเกิดปัญหาลุกลามจนยากจะแก้ไขได้